บันทึกการเรียนครั้งที่ 3
วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560
เวลา 8.30-12.30 น.
ความรู้ที่ได้รับ
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ(เด็กที่มีลักษณะบกพร่อง)
4. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
(Children with Speech and Language
Disorders)
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด
หมายถึง
เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ
ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง
จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
1.
ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง
(Articulator Disorders)
•เสียงบางส่วนของคำขาดหายไป
"ความ" เป็น "คาม"
•ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง
"กิน" "จิน" กวาด ฟาด
•เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย
"หกล้ม" เป็น "หก-กะ-ล้ม"
•เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง
"แล้ว" เป็น "แล่ว"
2.
ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (speech
Flow Disorders)
•พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอน
ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา
•การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
•อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
•จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
•เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง
สละสลวย
3.
ความบกพร่องของเสียงพูด
(Voice Disorders)
•ความบกพร่องของระดับเสียง
•เสียงดังหรือค่อยเกินไป
•คุณภาพของเสียงไม่ดี
ความบกพร่องทางภาษา
หมายถึง
การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย
(Delayed Language)
•มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
•มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
•ไม่สามารถสร้างประโยคได้
•มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญา
อารมณ์ สมองผิดปกติ
•ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วน
ๆ
2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง
โดยทั่วไปเรียกว่า
Dysphasia หรือ aphasia
Dysphasia หรือ aphasia
•อ่านไม่ออก
(alexia)
•เขียนไม่ได้
(agraphia
)
•สะกดคำไม่ได้
•ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
•จำคำหรือประโยคไม่ได้
•ไม่เข้าใจคำสั่ง
•พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
Gerstmann’s syndrome
ไม่รู้ชื่อนิ้ว
(finger
agnosia)
ไม่รู้ซ้ายขวา
(allochiria)
คำนวณไม่ได้
(acalculia)
เขียนไม่ได้
(agraphia)
อ่านไม่ออก
(alexia)
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
•ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ
ร้องไห้เบา ๆ และอ่อนแรง
•ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ
10 เดือน
•ไม่พูดภายในอายุ
2 ขวบ
•หลัง
3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
•ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
•หลัง
5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
•มีปัญหาในการสื่อความหมาย
พูดตะกุกตะกัก
•ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
5. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
(Children with Physical and Health
Impairments)
•เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
•อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
•เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
•มีปัญหาทางระบบประสาท
•มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
โรคลมชัก
(Epilepsy)
•เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
•มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
1.การชักในช่วงเวลาสั้น ๆ (Petit Mal)
•อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10วินาที
•มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
•เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
•เด็กจะนั่งเฉย
หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
•เมื่อเกิดอาการชัก
เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที
จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู
3.อาการชักแบบ (Partial Complex)
•มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
•เหม่อนิ่ง
•เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
•หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
และต้องการนอนพัก
4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
•เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น
เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้
เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
5.ลมบ้าหมู (Grand Mal)
•เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ
และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก
กัดฟัน กัดลิ้น
การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน
ในกรณีเด็กมีอาการชัก
•จับเด็กนอนตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
•ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
•หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะ
•ดูดน้ำลาย
เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
•จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
•ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
•ทำการช่วยหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
ซี.พี.
(Cerebral Palsy)
•การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ
หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด
ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด
•การเคลื่อนไหว
การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ
ของสมองแตกต่างกัน
1.กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
•spastic
hemiplegia
อัมพาตครึ่งซีก
•spastic
diplegia
อัมพาตครึ่งท่อนบน
•spastic
paraplegiaอัมพาตครึ่งท่อนบน
•spastic
quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง(athetoid , ataxia)
•athetoid
อาการขยุกขยิกช้า ๆ
หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง
ปากเบี้ยวร่วมด้วย
•ataxia
มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย
กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3. กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed)
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
(Muscular Distrophy)
•เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้น
ๆ เสื่อมสลายตัว
•เดินไม่ได้
นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
•จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง
คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
ทราบถึงอาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา และทราบถึงอาการเด็กที่มีควาบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ รู้ถึงวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเด็กมีอาการชักทำให้เรนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยกับเด็กมากที่สุด
ประเมินผล
ประเมินตนเอง
สนใจฟังที่อาจารย์สอน มีการจดบันทึก
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆตั้งใจเรียนและให้ความร่วมมือในการออกไปแสดงบทบาทสมมุติ
ประเมินอาจารย์
อาจารย์มีการเตรียมการสอน
มีวิดิโอมาให้ดู และอธิบายเพิ่มเติม
ยกตัวอย่างเพื่อให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น
มีความเป็นกันเองทำให้การเรียนไม่ตึงเครียด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น